Google ปล่อย Algorithm Update ครั้งใหญ่! เว็บไซต์ไทยต้องเตรียมตัวอย่างไร?

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวเว็บไซต์ไทยทุกคน! ช่วงนี้คงได้ยินข่าวกันหนาหูเรื่อง Google ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ออกมา ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ทั่วโลก รวมถึงเว็บไซต์ของเราๆ ชาวไทยด้วย หลายคนอาจจะกังวลว่าเว็บไซต์ที่อุตส่าห์ปั้นมาอย่างดีจะอันดับร่วง ยอด traffic หาย วันนี้ผมเลยอยากมาแชร์ข้อมูล พร้อมกับแนะนำวิธีเตรียมตัวรับมือกับอัลกอริทึมใหม่ของ Google แบบง่ายๆ สไตล์คนทำเว็บ เข้าใจง่าย ไม่ต้องศัพท์เทคนิคเยอะ รับรองว่าอ่านจบแล้วเอาไปปรับใช้ได้ทันที!

ทำความรู้จักกับ Google Algorithm Update กันก่อน

ก่อนอื่นเลย เราต้องเข้าใจก่อนว่า Google เนี่ยเค้าไม่ได้อยู่เฉยๆ นะ เค้าพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ เพื่ออะไร? ก็เพื่อให้ผลการค้นหาของเค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น แสดงผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานที่สุด ซึ่งการอัพเดทแต่ละครั้งก็มีจุดประสงค์ต่างกันไป บางทีก็เน้นเรื่องความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ บางทีก็เน้นที่คุณภาพของคอนเทนต์ หรือบางทีก็โฟกัสที่ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือ

ทีนี้ พอ Google อัพเดทอัลกอริทึมปุ๊บ เว็บไซต์ที่เคยติดอันดับต้นๆ ก็อาจจะร่วงลงมา ส่วนเว็บไซต์ที่ทำ SEO ดีๆ คอนเทนต์ปังๆ ก็อาจจะอันดับพุ่งขึ้นไปแทนที่ มันก็เหมือนการสอบแหละครับ ถ้าเราอ่านหนังสือ ทำความเข้าใจเนื้อหา เตรียมตัวมาดี ยังไงก็สอบผ่าน แต่ถ้าเราไม่สนใจ มัวแต่เล่นเกม ก็มีสิทธิ์สอบตกได้เหมือนกัน

อัลกอริทึมใหม่ เน้นอะไรบ้าง?

จากที่ผมตามข่าวมา และลองศึกษาข้อมูลดู อัลกอริทึมตัวใหม่ของ Google ครั้งนี้ น่าจะเน้นไปที่เรื่องพวกนี้ครับ:

  • Core Web Vitals: ตัวนี้สำคัญมาก! เป็นการวัดผลด้านประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์โหลดเร็วไหม? ลื่นไหลหรือเปล่า? กดปุ่มแล้วตอบสนองดีหรือไม่? ถ้าเว็บไซต์เราช้า กระตุก โหลดนาน บอกเลยว่าอันดับร่วงแน่นอน ลองเช็คคะแนน Core Web Vitals ของเว็บไซต์ตัวเองได้ที่ [PageSpeed Insights (https://developers.google.com/speed/pagespeed/insights/)]1
  • Mobile-First Indexing: ยุคนี้ใครๆ ก็ใช้มือถือ Google เลยให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่แสดงผลบนมือถือได้ดี เว็บไซต์ต้อง responsive ปรับขนาดหน้าจออัตโนมัติ ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะดูบนมือถือรุ่นไหน ระบบปฏิบัติการอะไร ก็ต้องแสดงผลได้อย่างสวยงาม
  • Content Quality: คอนเทนต์ยังคงเป็น King! Google อยากให้ผู้ใช้งานเจอคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เนื้อหาต้องถูกต้อง เป็นประโยชน์ อ่านง่าย ไม่ใช่ก็อปปี้เว็บไซต์อื่นมา ยิ่งถ้าเป็นคอนเทนต์ที่เขียนขึ้นมาใหม่ อัพเดทข้อมูลล่าสุด ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน บอกเลยว่า Google ชอบมาก!
  • EAT (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness): Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ ผู้เขียนต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ เว็บไซต์ต้องมีความปลอดภัย ใช้ HTTPS ข้อมูลติดต่อชัดเจน พวกนี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ ทำให้ Google มั่นใจว่าเว็บไซต์ของเราปลอดภัย ไม่หลอกลวงผู้ใช้งาน

เตรียมตัวรับมือ Google Algorithm Update อย่างไรดี?

รู้แล้วว่า Google เน้นอะไร ทีนี้เรามาดูวิธีเตรียมตัวรับมือกันดีกว่า ไม่ยากอย่างที่คิดครับ แค่ทำตามนี้:

  1. ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์: อันนี้สำคัญสุด! ไม่มีใครชอบเว็บไซต์ที่โหลดช้าหรอก ลองเช็คความเร็วเว็บไซต์ตัวเอง แล้วปรับปรุงแก้ไข เช่น บีบอัดรูปภาพ ลดขนาดไฟล์ ใช้ CDN แคชเว็บไซต์ พวกนี้ช่วยเพิ่มความเร็วได้เยอะเลย
  2. ออกแบบเว็บไซต์ให้ Mobile-Friendly: เช็คว่าเว็บไซต์ของเราแสดงผลบนมือถือได้ดีหรือยัง ถ้ายัง รีบปรับปรุงเลย ใช้ธีมที่ responsive ออกแบบให้ใช้งานง่าย เมนูชัดเจน ตัวอักษรอ่านง่าย
  3. สร้าง Content คุณภาพ: เน้นคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ เนื้อหาต้อง original ไม่ก็อปปี้ใคร เขียนให้เข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ใส่รูปภาพ วิดีโอ ประกอบ ยิ่งคอนเทนต์ยาวๆ ละเอียดๆ ยิ่งดี Google ชอบ!
  4. สร้าง Backlink คุณภาพ: Backlink ก็เหมือนคะแนนเสียง ยิ่งมีเว็บไซต์อื่นลิงค์มาหาเรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าเว็บไซต์เรามีคุณภาพ แต่ต้องเป็น backlink ที่ดีนะครับ มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง น่าเชื่อถือ ไม่ใช่เว็บไซต์ spam
  5. อัพเดทเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ: อย่าปล่อยให้เว็บไซต์ร้าง หมั่นอัพเดทคอนเทนต์ใหม่ๆ แก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน Google จะได้รู้ว่าเว็บไซต์เรายัง active อยู่
  6. ใช้ SEO Tools ช่วยวิเคราะห์: มีเครื่องมือ SEO เยอะแยะเลย ที่ช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์ หาจุดอ่อน จุดแข็ง เช่น Google Search Console, Google Analytics, Ahrefs, SEMrush พวกนี้ช่วยให้เราวางแผน SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่าลืม! SEO ต้องใช้เวลา

การทำ SEO มันเหมือนการปลูกต้นไม้นะครับ ต้องใช้เวลา ใส่ใจ ดูแล รดน้ำ พรวนดิน ให้ปุ๋ย กว่าต้นไม้จะโต ออกดอก ออกผล ก็ต้องใช้เวลา SEO ก็เหมือนกัน กว่าเว็บไซต์จะติดอันดับ ได้ traffic ก็ต้องใช้ความอดทน ทำอย่างต่อเนื่อง

อย่าไปหวังผลลัพธ์แบบรวดเร็วทันใจ หรือใช้วิธี black hat SEO หลอกลวง Google เพราะสุดท้ายแล้ว เว็บไซต์เราก็จะโดนลงโทษ อันดับร่วง เสียหายหนักกว่าเดิม

ทำ SEO แบบ white hat เน้นคุณภาพ สร้างคอนเทนต์ดีๆ ให้ประโยชน์กับผู้ใช้งาน รับรองว่าเว็บไซต์ของเราจะติดอันดับ ได้ traffic แบบยั่งยืน แถมยังสร้างแบรนด์ เพิ่มยอดขาย ได้อีกด้วย

สรุป

การอัพเดทอัลกอริทึมของ Google เป็นเรื่องปกติ ที่เราต้องเจอ อย่าไปกลัว แต่ให้ปรับตัว เรียนรู้ และพัฒนาเว็บไซต์ของเราให้ดีขึ้น เน้นที่ประสบการณ์ผู้ใช้งาน สร้างคอนเทนต์คุณภาพ ทำ SEO แบบถูกวิธี รับรองว่าเว็บไซต์ของเราจะแข็งแกร่ง ไม่ว่า Google จะอัพเดทอัลกอริทึมกี่ครั้ง ก็เอาอยู่!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาวเว็บไซต์ไทยทุกคนนะครับ ถ้ามีคำถาม หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คอมเมนต์ไว้ได้เลย ยินดีพูดคุยครับ!

Hot this week

สร้าง Infographic สุดปัง สื่อสารข้อมูลเข้าใจง่ายแชร์ได้ไว

Infographic คือ การนำเสนอข้อมูลด้วยภาพ ที่ช่วยย่อยข้อมูลเชิงซ้อน ให้ง่ายต่อการเข้าใจ แถมยังดูสวยงามน่ามอง บทความนี้ จะพาคุณไปเรียนรู้ วิธีสร้าง Infographic ให้ปัง พร้อมเคล็ดลับการออกแบบ และตัวอย่าง ที่น่าสนใจ

Google Search Console เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ฟรี ที่ธุรกิจออนไลน์ต้องมี!

Google Search Console คือ เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ฟรีจาก Google ที่ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์, วิเคราะห์ SEO, แก้ไขปัญหาทางเทคนิค, และปรับปรุงอันดับเว็บไซต์บน Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยิง Email Marketing ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ด้วย 5 เครื่องมือ Email Marketing สุดล้ำ

อยากยิง Email Marketing ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มยอดขาย และสร้าง Brand Loyalty ใช่ไหม? บทความนี้ มีคำตอบ! เราได้รวบรวม 5 เครื่องมือ Email Marketing สุดล้ำ พร้อมเทคนิคการเลือกใช้ และกลยุทธ์การยิง Email แบบมือโปร มาให้คุณแล้ว!

เจาะลึก Google Analytics ไขความลับเว็บไซต์ของคุณให้กระจ่าง

Google Analytics คือเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ ที่ทรงพลังและใช้งานได้ฟรี บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกฟีเจอร์ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง ช่วยให้คุณวิเคราะห์เว็บไซต์ได้อย่างมืออาชีพ

จัดการ Social Media ให้ปังด้วย 5 เครื่องมือ Social Media Management

บทความนี้จะแนะนำ 5 เครื่องมือ Social Media Management ที่จะช่วยให้คุณจัดการโซเชียลมีเดียได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น Buffer, Hootsuite, Sprout Social, Later และ Zoho Social

Topics

สร้าง Infographic สุดปัง สื่อสารข้อมูลเข้าใจง่ายแชร์ได้ไว

Infographic คือ การนำเสนอข้อมูลด้วยภาพ ที่ช่วยย่อยข้อมูลเชิงซ้อน ให้ง่ายต่อการเข้าใจ แถมยังดูสวยงามน่ามอง บทความนี้ จะพาคุณไปเรียนรู้ วิธีสร้าง Infographic ให้ปัง พร้อมเคล็ดลับการออกแบบ และตัวอย่าง ที่น่าสนใจ

Google Search Console เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ฟรี ที่ธุรกิจออนไลน์ต้องมี!

Google Search Console คือ เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ฟรีจาก Google ที่ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์, วิเคราะห์ SEO, แก้ไขปัญหาทางเทคนิค, และปรับปรุงอันดับเว็บไซต์บน Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยิง Email Marketing ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ด้วย 5 เครื่องมือ Email Marketing สุดล้ำ

อยากยิง Email Marketing ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มยอดขาย และสร้าง Brand Loyalty ใช่ไหม? บทความนี้ มีคำตอบ! เราได้รวบรวม 5 เครื่องมือ Email Marketing สุดล้ำ พร้อมเทคนิคการเลือกใช้ และกลยุทธ์การยิง Email แบบมือโปร มาให้คุณแล้ว!

เจาะลึก Google Analytics ไขความลับเว็บไซต์ของคุณให้กระจ่าง

Google Analytics คือเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ ที่ทรงพลังและใช้งานได้ฟรี บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกฟีเจอร์ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง ช่วยให้คุณวิเคราะห์เว็บไซต์ได้อย่างมืออาชีพ

จัดการ Social Media ให้ปังด้วย 5 เครื่องมือ Social Media Management

บทความนี้จะแนะนำ 5 เครื่องมือ Social Media Management ที่จะช่วยให้คุณจัดการโซเชียลมีเดียได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น Buffer, Hootsuite, Sprout Social, Later และ Zoho Social

5 โปรแกรมออกแบบกราฟิกฟรี สำหรับธุรกิจ SME

บทความนี้รวบรวม 5 โปรแกรมออกแบบกราฟิกฟรี ที่ใช้งานง่าย ฟังก์ชั่นครบครัน เหมาะสำหรับธุรกิจ SME พร้อมรีวิวข้อดี-ข้อเสีย และฟีเจอร์เด่นๆ ช่วยให้คุณเลือกโปรแกรมที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว

10 เครื่องมือ SEO ฟรี ที่ธุรกิจออนไลน์ต้องมี! (10 Free SEO Tools Every Online Business Needs!)

บทความนี้รวบรวม 10 เครื่องมือ SEO ฟรี ที่ทรงพลังและใช้งานง่าย มาช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินแพงๆ

เทรนด์ Cashless Society มาแรงในไทย! ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างไร

Cashless Society มาแรงในไทย! ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างไร? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเทรนด์ไร้เงินสด พร้อมเผยกลยุทธ์และ Digital Payment ที่ธุรกิจควรรู้
spot_img

Related Articles

Popular Categories

spot_imgspot_img