สวัสดีครับเพื่อนๆ นักธุรกิจออนไลน์ทุกท่าน! วันนี้ผมขอมาแชร์ประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการทำ Facebook Marketing แบบหมดเปลือก เอาแบบที่เรียกว่าอ่านจบแล้ว เอาไปใช้ได้เลย ไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนเพิ่ม ผมจะพาไปดูตั้งแต่การสร้างเพจให้ปัง ดึงดูดผู้ติดตาม เพิ่มยอดไลค์ และที่สำคัญที่สุดคือการสร้าง Engagement ให้กระฉูด! พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!
ทำไมต้อง Facebook Marketing?
ยุคนี้ใครๆ ก็เล่น Facebook จะหาลูกค้า จะขายของ ก็ต้องมาที่นี่แหละครับ Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคนทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็มีผู้ใช้งาน Facebook มากกว่า 50 ล้านคน ลองคิดดูสิครับว่า ถ้าเราใช้ Facebook เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด ธุรกิจของเราจะเติบโตได้ขนาดไหน
สร้างเพจ Facebook ให้ปัง ดึงดูดใจลูกค้า
ก่อนอื่นเลย เราต้องมี “บ้าน” ที่แข็งแรงก่อน “บ้าน” ในที่นี้ก็คือ “เพจ Facebook” ของเรานั่นเองครับ การสร้างเพจให้ปัง มีองค์ประกอบสำคัญหลายอย่าง ผมขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
- ชื่อเพจต้องโดน: ชื่อเพจควรสื่อถึงธุรกิจของเรา จำง่าย อ่านง่าย และควรมี Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อให้คนค้นหาเจอได้ง่าย
- รูปโปรไฟล์ & รูป Cover ต้องสะดุดตา: เลือกใช้รูปภาพที่สวยงาม มีคุณภาพสูง และสื่อถึงแบรนด์ของเรา รูปโปรไฟล์ควรเป็นโลโก้ของแบรนด์ ส่วนรูป Cover อาจจะเป็นรูปสินค้า บริการ หรือบรรยากาศของร้าน
- ข้อมูลเพจต้องครบถ้วน: กรอกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจให้ครบถ้วน เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ เวลาทำการ ฯลฯ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเพจ
- สร้าง Content ที่มีคุณภาพ: Content คือหัวใจสำคัญของการทำ Facebook Marketing เราควรสร้าง Content ที่น่าสนใจ มีประโยชน์ และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย Content อาจจะเป็น รูปภาพ วิดีโอ บทความ Live สด หรือ Infographic ก็ได้
- หมั่นโพสต์ Content อย่างสม่ำเสมอ: อย่าปล่อยให้เพจร้าง ควรโพสต์ Content อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อให้เพจมีความเคลื่อนไหว และทำให้ผู้ติดตามไม่ลืมเรา
เพิ่มยอดไลค์ ขยายฐานลูกค้า
เมื่อเรามีเพจที่แข็งแรงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเพิ่มยอดไลค์ เพื่อขยายฐานลูกค้า มีหลายวิธีที่เราสามารถทำได้ เช่น
- เชิญเพื่อนๆ ให้กดไลค์เพจ: เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเชิญเพื่อนๆ ใน Facebook ของเราให้มากดไลค์เพจ
- แชร์เพจไปยังกลุ่มต่างๆ: แชร์เพจไปยังกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา แต่ควรศึกษา กฎ ระเบียบของแต่ละกลุ่มก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้อื่น
- โปรโมทเพจบนเว็บไซต์ และช่องทาง Social Media อื่นๆ: เพิ่มช่องทางการเข้าถึงเพจ ด้วยการโปรโมทเพจบนเว็บไซต์ Instagram Line Twitter และช่องทาง Social Media อื่นๆ
- จัดกิจกรรมแจกของรางวัล: กิจกรรมแจกของรางวัล เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มยอดไลค์ได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยสร้าง Engagement กับผู้ติดตามได้อีกด้วย
- ยิง Facebook Ads: ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และตรงกลุ่มเป้าหมาย การยิง Facebook Ads เป็นทางเลือกที่ดี แต่ต้องศึกษา วิธีการยิง Ads ให้ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ปั๊ม Engagement ให้ลูกค้า “อิน” กับแบรนด์
Engagement คือ “ตัวชี้วัด” ความสำเร็จของการทำ Facebook Marketing ยิ่งมี Engagement สูง ก็แปลว่า ลูกค้าให้ความสนใจ และมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเรามาก ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น เทคนิคการปั๊ม Engagement มีดังนี้
- สร้าง Content ที่กระตุ้นให้เกิด “ปฏิสัมพันธ์”: เช่น ตั้งคำถาม จัดกิจกรรม ให้ผู้ติดตามร่วมสนุก แชร์ประสบการณ์ แสดงความคิดเห็น ฯลฯ
- ตอบคำถาม และข้อความ อย่างรวดเร็ว: แสดงให้เห็นว่า เราใส่ใจลูกค้า และพร้อมที่จะให้บริการ
- ใช้ Facebook Live: Live สด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้าง Engagement ได้ดี เพราะทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น
- ใช้ Facebook Stories: Stories เป็น Content รูปแบบ “วิดีโอสั้น” ที่กำลังได้รับความนิยม เราสามารถใช้ Stories ในการโปรโมทสินค้า บริการ หรือกิจกรรมต่างๆ ได้
- ร่วมสนทนา ในกลุ่ม Facebook: เข้าร่วมกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา และมีส่วนร่วมในการสนทนา เพื่อสร้าง Connection กับลูกค้า
ใช้ Facebook Groups สร้าง Community ของลูกค้า
Facebook Groups เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ในการสร้าง Community ของลูกค้า เราสามารถใช้ Groups ในการ
- แบ่งปันข้อมูล ข่าวสาร และความรู้: ที่เป็นประโยชน์ กับสมาชิกในกลุ่ม
- จัดกิจกรรม ส่งเสริมการขาย: เฉพาะสมาชิกในกลุ่ม
- รับ Feedback จากลูกค้า: เพื่อนำไปปรับปรุง พัฒนาสินค้า และบริการ
- สร้างความสัมพันธ์ กับลูกค้า: ให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
เครื่องมือ ช่วย “จัดการ” Facebook Page
การ “จัดการ” Facebook Page ให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้ “เครื่องมือ” เข้ามาช่วย ผมขอแนะนำเครื่องมือ ที่น่าสนใจ ดังนี้
- Facebook Creator Studio: เครื่องมือ “ฟรี” จาก Facebook ที่ช่วย “จัดการ” Content “วิเคราะห์” ข้อมูล และ “โต้ตอบ” กับผู้ติดตาม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ [insert link here]
- Buffer: เครื่องมือ “จัดการ” Social Media ที่ช่วย “กำหนดเวลา” โพสต์ Content “วิเคราะห์” ผลลัพธ์ และ “จัดการ” บัญชี Social Media หลายบัญชี ได้พร้อมกัน [insert link here]
- Hootsuite: อีกหนึ่งเครื่องมือ “จัดการ” Social Media ยอดนิยม ที่ “ครบเครื่อง” เรื่อง “การจัดการ” Content “ติดตาม” ความเคลื่อนไหว และ “วิเคราะห์” ข้อมูล [insert link here]
บทสรุป
การทำ Facebook Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ต้องอาศัย “ความเข้าใจ” ใน “พฤติกรรม” ของผู้บริโภค “การวางแผน” อย่าง “เป็นระบบ” และ “การปรับตัว” ให้เข้ากับ “สถานการณ์” อยู่เสมอ ผมหวังว่า บทความนี้ จะเป็นประโยชน์ กับเพื่อนๆ นักธุรกิจออนไลน์ ทุกท่าน นะครับ ขอให้ “ประสบความสำเร็จ” ในการทำ Facebook Marketing กันทุกคน!